ความคิดของผู้บริหารคณะสงฆ์ยุคใหม่ ต้องใช้เทคโนโลยี
ทั้งๆ ที่มีปัญหามาจากการอบรมของพระอุปัชฌาย์อาจารย์
จากการอภิปรายเรื่อง “ปัญหาและสถานการณ์ของพระภิกษุสามเณรในปัจจุบัน” ในการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการพระวินยาธิการ (ตำรวจพระ) ประจำปี 2549 เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมีการระบุว่า ปัจจุบันมีปัญหาเกี่ยวกับพระปลอมบวชจำนวนมาก เพราะสามารถหาเงินจากการเรี่ยไรได้วันละหลายพันบาท ขณะที่ในส่วนของพระสงฆ์ บางรูปมีพฤติกรรมการบิณฑบาตเพื่อหวังนำเงินปัจจัยไปซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือย เช่น โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ นั้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 6 ก.ย. นายถวิล สมัครรัฐกิจ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กล่าวถึงเรื่องทางแก้ไขกรณีดังกล่าวว่า กรณีพระปลอมบวชนั้น หากส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนาจับได้ จะส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีทันที แต่สาเหตุที่ยังทำให้ไม่สามารถดำเนินการกับกลุ่มคนปลอมบวชได้หมด เนื่องจากกฎหมายในการลงโทษผู้ที่ปลอมบวชเป็นพระนั้นยังเบาอยู่ คือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ทำให้คนปลอมบวชบางรายไม่เข็ดหลาบ พอพ้นโทษก็มาปลอมบวชเพื่อเรี่ยไรเงินอีก
“การปลอมบวช เพื่อเรี่ยไรเงิน มีการทำเป็นขบวนการ จึงอยากขอความร่วมมือประชาชนทุกคน หากเห็นพระที่มีลักษณะน่าสงสัยว่าจะเป็นพระปลอม ให้แจ้งมาที่ โทร. 0-2441-4547 ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบทันที” ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯกล่าว
ด้านพระธรรมกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด สัมพันธวงศ์ ในฐานะโฆษกมหาเถรสมาคม กล่าวว่า ทางแก้ที่ดีที่สุดคือ จะต้องกำชับไปยังเจ้าอาวาสทุกรูปในเขต กทม. และปริมณฑล เพื่อให้คอยดูแลพระลูกวัดอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันควรมีบัตรประจำตัวของพระทุกรูป ที่นอกเหนือจากใบสุทธิ เพราะใบสุทธิในปัจจุบันสามารถปลอมกันขึ้นมาได้ง่าย และส่วนใหญ่จะทำคล้ายของจริงมาก ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดๆ ก็ตามที่ไม่ใช่พระสงฆ์ แต่มีอำนาจที่สามารถเรียกตรวจสอบได้ จะไม่ทราบเลยว่าเป็นใบสุทธิจริงหรือปลอม
“ในการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) วันที่ 11 ก.ย. นี้ อาตมาจะเสนอในที่ประชุมเพื่อขอความเห็นชอบให้มีการจัดทำบัตรประจำตัวของพระ โดยจะให้มีลักษณะแบบ “สมาร์ทการ์ด” ซึ่งทางคณะสงฆ์จะขอความร่วมมือจากหน่วยงานราชการในการดำเนินการให้ เพราะที่ผ่านมาเกิดปัญหาในทางลบเกี่ยวกับพระสงฆ์บ่อยครั้งขึ้น มีเพียงบางครั้งเท่านั้นที่สามารถตรวจสอบได้” พระธรรมกิตติเมธี กล่าว
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ยืนยันด้วยว่า เมื่อพระมีบัตรประจำตัวแบบสมาร์ทการ์ด จะทำให้สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อจับพระที่ทำความผิด จะทำให้สามารถตรวจสอบได้ในทันทีว่าเป็นพระมาจากที่ไหน เคยทำความผิดมาก่อนหรือไม่ ซึ่งการให้พระมีบัตรสมาร์ทการ์ดนั้น จะเป็นในลักษณะที่มีควบคู่กับใบสุทธิ ไม่ได้ต้องการให้ยกเลิกระบบเก่า แต่เพื่อความรวดเร็วในการตรวจสอบข้อมูลของพระที่ทำความผิด
ข่าว : ไทยรัฐ
7 กันยายน 2549
LogoThai.COM
2,302 กระทู้ | 575 หัวข้อ | 405 สมาชิก
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน