คลิกที่นี่ -->> เปรียบเทียบทำเลและราคาที่ดินวังน้ำเขียวผ่าน GooleMAP | คลิกที่นี้ -->> Upload ภาพ
หัวข้อ: สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทุ่ม100ล้านทำสมาร์ทการ์ดพระ
เริ่มหัวข้อโดย: LesCop ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2556 16:17:30
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทุ่ม100ล้านทำสมาร์ทการ์ดพระ
นำมาใช้ครั้งแรก-คาดเสร็จปลายปี "52 เชื่อลดปัญหากลุ่มอ้างศาสนาหากิน
นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ดให้กับพระสงฆ์ทั่วประเทศว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดเก็บข้อมูลของพระสงฆ์ 260,000 รูปทั่วประเทศและขั้นตอนการจัดทำโปรแกรมและฐานข้อมูล ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก ตนคิดว่าจะไม่มีอุปสรรคอะไร เนื่องจากการจัดเก็บข้อมูลของพระสงฆ์นั้นได้มอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดรับผิดชอบทำการสำรวจและเก็บข้อมูลมาโดยตลอด จึงเหลือเพียงการนำข้อมูลในแต่ละจังหวัดมารวมให้เป็นระบบข้อมูลกลางที่ พศ.ก็จะเสร็จสมบูรณ์และคาดว่ากระบวนการเก็บข้อมูลจะเสร็จสมบูรณ์ภายใน 6 เดือน จากนั้นจะสามารถทำบัตรสมาร์ทการ์ดให้กับพระสงฆ์ได้ใช้เป็นครั้งแรกในปลายปี 2552 ทั้งนี้ในการจัดเก็บข้อมูลของพระสงฆ์และการจัดทำโปรแกรมนั้น พศ.ได้ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท
นายอำนาจกล่าวต่อว่า การจัดทำฐานข้อมูลและการทำบัตรสมาร์ทการ์ดของพระสงฆ์จะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือพระสงฆ์ที่บวชในระยะยาวและพระสงฆ์ที่บวชในระยะสั้น เพื่อความสะดวกในการจัดเก็บฐานข้อมูลและการตรวจสอบข้อมูล สำหรับรูปแบบของสมาร์ทการ์ด ต้องรอให้มีการจัดเก็บข้อมูลเสร็จก่อนจึงจะมาหารือกันอีกครั้งว่าจะใช้รูปแบบใด แต่เบื้องต้นมีอยู่ 2 แบบ คือ 1.รูปเล่มและฝังแทบแม่เหล็ก 2.ทำในรูปแบบการ์ดเหมือนกับบัตรเครดิตทั่วๆ ไป ทั้งนี้การจะตัดสินใจเลือกรูปแบบใดนั้นตนจะคำนึงถึงการปลอมแปลงด้วย เพื่อไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพใช้ช่องทางนี้ในการหาผลประโยชน์และหากินกับพระพุทธศาสนา ทั้งนี้เมื่อกระบวนการจัดข้อมูลของพระสงฆ์เสร็จแล้ว ก็จะเปิดให้มีการทำบัตรสมาร์ทการ์ด โดยเบื้องต้นกำหนดว่าพระสงฆ์จะสามารถทำบัตรได้ที่อำเภอและตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหลายจังหวัดที่ได้มีการนำระบบการทำสมาร์ทการ์ดมาทดลองทำให้กับพระสงฆ์บ้างแล้ว เช่น วัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี ได้มีการออกบัตรสมาร์ทการ์ดให้กับพระลูกวัด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าหากการจัดสมาร์ทการ์ดเสร็จสมบูรณ์ จะง่ายต่อการตรวจสอบข้อมูลของพระสงฆ์ และจะสามารถแก้ปัญหาพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมและปฏิบัติตนไม่เหมาะสม รวมทั้งเป็นการคัดกรองคนที่เข้ามาบวชได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็จะสามารถตรวจสอบข้อมูลจากสมาร์ทการ์ดได้ทันที
ที่มา : palungjit.com (http://board.palungjit.com/f36/%E0%B8%9E%E0%B8%A8-%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1100%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0-151399.html)
นำมาใช้ครั้งแรก-คาดเสร็จปลายปี "52 เชื่อลดปัญหากลุ่มอ้างศาสนาหากิน
นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ดให้กับพระสงฆ์ทั่วประเทศว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดเก็บข้อมูลของพระสงฆ์ 260,000 รูปทั่วประเทศและขั้นตอนการจัดทำโปรแกรมและฐานข้อมูล ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก ตนคิดว่าจะไม่มีอุปสรรคอะไร เนื่องจากการจัดเก็บข้อมูลของพระสงฆ์นั้นได้มอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดรับผิดชอบทำการสำรวจและเก็บข้อมูลมาโดยตลอด จึงเหลือเพียงการนำข้อมูลในแต่ละจังหวัดมารวมให้เป็นระบบข้อมูลกลางที่ พศ.ก็จะเสร็จสมบูรณ์และคาดว่ากระบวนการเก็บข้อมูลจะเสร็จสมบูรณ์ภายใน 6 เดือน จากนั้นจะสามารถทำบัตรสมาร์ทการ์ดให้กับพระสงฆ์ได้ใช้เป็นครั้งแรกในปลายปี 2552 ทั้งนี้ในการจัดเก็บข้อมูลของพระสงฆ์และการจัดทำโปรแกรมนั้น พศ.ได้ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท
นายอำนาจกล่าวต่อว่า การจัดทำฐานข้อมูลและการทำบัตรสมาร์ทการ์ดของพระสงฆ์จะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือพระสงฆ์ที่บวชในระยะยาวและพระสงฆ์ที่บวชในระยะสั้น เพื่อความสะดวกในการจัดเก็บฐานข้อมูลและการตรวจสอบข้อมูล สำหรับรูปแบบของสมาร์ทการ์ด ต้องรอให้มีการจัดเก็บข้อมูลเสร็จก่อนจึงจะมาหารือกันอีกครั้งว่าจะใช้รูปแบบใด แต่เบื้องต้นมีอยู่ 2 แบบ คือ 1.รูปเล่มและฝังแทบแม่เหล็ก 2.ทำในรูปแบบการ์ดเหมือนกับบัตรเครดิตทั่วๆ ไป ทั้งนี้การจะตัดสินใจเลือกรูปแบบใดนั้นตนจะคำนึงถึงการปลอมแปลงด้วย เพื่อไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพใช้ช่องทางนี้ในการหาผลประโยชน์และหากินกับพระพุทธศาสนา ทั้งนี้เมื่อกระบวนการจัดข้อมูลของพระสงฆ์เสร็จแล้ว ก็จะเปิดให้มีการทำบัตรสมาร์ทการ์ด โดยเบื้องต้นกำหนดว่าพระสงฆ์จะสามารถทำบัตรได้ที่อำเภอและตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหลายจังหวัดที่ได้มีการนำระบบการทำสมาร์ทการ์ดมาทดลองทำให้กับพระสงฆ์บ้างแล้ว เช่น วัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี ได้มีการออกบัตรสมาร์ทการ์ดให้กับพระลูกวัด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าหากการจัดสมาร์ทการ์ดเสร็จสมบูรณ์ จะง่ายต่อการตรวจสอบข้อมูลของพระสงฆ์ และจะสามารถแก้ปัญหาพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมและปฏิบัติตนไม่เหมาะสม รวมทั้งเป็นการคัดกรองคนที่เข้ามาบวชได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็จะสามารถตรวจสอบข้อมูลจากสมาร์ทการ์ดได้ทันที
ที่มา : palungjit.com (http://board.palungjit.com/f36/%E0%B8%9E%E0%B8%A8-%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1100%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0-151399.html)
หัวข้อ: Re: สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทุ่ม100ล้านทำสมาร์ทการ์ดพระ
เริ่มหัวข้อโดย: LesCop ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2556 16:26:20
"สำนักพุทธฯ"ตั้งเป้าอีก4ปีใช้สมาร์ทการ์ด พระ-เณรมีบัตรประจำตัวทุกรูป
นางบุญศรี พานะจิตต์ รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักพุทธฯ ได้ตั้งคณะกรรมการจัดทำแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารของสำนักพุทธฯ เพื่อรองรับแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ฉบับที่ 2) ของประเทศไทย พ.ศ.2552-2556 ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) นั้น ขณะนี้แผนแม่บทดังกล่าวได้ร่างเสร็จแล้ว โดยจะมียุทธศาสตร์ต่างๆ ประกอบด้วย
ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาบุคลากรทางพระพุทธศาสนาให้มีความรู้ มีทักษะในการใช้และพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยจะมีการจัดหลักสูตรฝึกอบรมความรู้ด้านไอซีทีผู้บริหาร บุคลากรสำนักพุทธฯ และคณะสงฆ์ จัดทำบทเรียนอี-เลิร์นนิ่ง จัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ให้มีมาตรฐาน
ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาระบบสารสนเทศและสร้างฐานข้อมูลเพื่อกิจการพระพุทธศาสนา โดยจะพัฒนาฐานข้อมูลสารสนเทศทางพระพุทธศาสนาครอบคลุมทุกจังหวัดภายในปี 2555 พัฒนาระบบข้อมูลบริการและประชาสัมพันธ์พุทธมณฑล จัดทำโครงการบัตรอิเล็กทรอนิกส์ประจำตัวผู้เช่าศาสนสมบัติ ตั้งเป้าผู้เช่ามีบัตรประจำตัวครบทุกคนภายในปี 2556
ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสร้างเครือข่ายคณะสงฆ์ และส่งเสริมการเผยแผ่หลักพุทธธรรมสู่วิถีของปวงชน โดยจะจัดทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (สมาร์ทการ์ด) ประจำตัวพระภิกษุสามเณร ตั้งเป้าพระภิกษุสามเณรทุกรูปมีบัตรสมาร์ทการ์ดภายในปี 2556 จัดทำโครงการขยายประสิทธิภาพการเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ห้องสมุดดิจิตัล) ภายในปี 2556 พัฒนาสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา
และยุทธศาสตร์ที่ 5 นำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาบูรณาการพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในปี 2554
ด้านนายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า ได้มีการทำประชาพิจารณ์ร่างแผนแม่บทดังกล่าวแล้ว และจากนี้จะนำเสนอต่อกระทรวงไอซีทีภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 หากกระทรวงไอซีทีเห็นชอบก็จะสามารถทำเรื่องของบประมาณได้เลย
http://www.matichon.co.th/khaosod/vi...MHdNaTB3TkE9PQ==
นางบุญศรี พานะจิตต์ รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักพุทธฯ ได้ตั้งคณะกรรมการจัดทำแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารของสำนักพุทธฯ เพื่อรองรับแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ฉบับที่ 2) ของประเทศไทย พ.ศ.2552-2556 ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) นั้น ขณะนี้แผนแม่บทดังกล่าวได้ร่างเสร็จแล้ว โดยจะมียุทธศาสตร์ต่างๆ ประกอบด้วย
ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาบุคลากรทางพระพุทธศาสนาให้มีความรู้ มีทักษะในการใช้และพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยจะมีการจัดหลักสูตรฝึกอบรมความรู้ด้านไอซีทีผู้บริหาร บุคลากรสำนักพุทธฯ และคณะสงฆ์ จัดทำบทเรียนอี-เลิร์นนิ่ง จัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ให้มีมาตรฐาน
ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาระบบสารสนเทศและสร้างฐานข้อมูลเพื่อกิจการพระพุทธศาสนา โดยจะพัฒนาฐานข้อมูลสารสนเทศทางพระพุทธศาสนาครอบคลุมทุกจังหวัดภายในปี 2555 พัฒนาระบบข้อมูลบริการและประชาสัมพันธ์พุทธมณฑล จัดทำโครงการบัตรอิเล็กทรอนิกส์ประจำตัวผู้เช่าศาสนสมบัติ ตั้งเป้าผู้เช่ามีบัตรประจำตัวครบทุกคนภายในปี 2556
ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสร้างเครือข่ายคณะสงฆ์ และส่งเสริมการเผยแผ่หลักพุทธธรรมสู่วิถีของปวงชน โดยจะจัดทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (สมาร์ทการ์ด) ประจำตัวพระภิกษุสามเณร ตั้งเป้าพระภิกษุสามเณรทุกรูปมีบัตรสมาร์ทการ์ดภายในปี 2556 จัดทำโครงการขยายประสิทธิภาพการเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ห้องสมุดดิจิตัล) ภายในปี 2556 พัฒนาสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา
และยุทธศาสตร์ที่ 5 นำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาบูรณาการพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในปี 2554
ด้านนายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า ได้มีการทำประชาพิจารณ์ร่างแผนแม่บทดังกล่าวแล้ว และจากนี้จะนำเสนอต่อกระทรวงไอซีทีภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 หากกระทรวงไอซีทีเห็นชอบก็จะสามารถทำเรื่องของบประมาณได้เลย
http://www.matichon.co.th/khaosod/vi...MHdNaTB3TkE9PQ==
|
ห้ามโพสต์รูปลามก หรือสิ่งผิดกฏหมายทุกประเภท ห้ามโพสต์ข้อความที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ห้ามใช้วาจาไม่สุภาพ หรือด่าทอ ข้อความหรือเนื้อหาที่เกิดขึ้น ผู้โพสต์ต้องเป็นคนรับผิดชอบเท่านั้น หากเราตรวจสอบว่ามีการโพสต์รูปลามก หรือทำสิ่งผิดกฎหมาย เราจะลบโพสต์ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า |
