คลิกที่นี่ -->> เปรียบเทียบทำเลและราคาที่ดินวังน้ำเขียวผ่าน GooleMAP | คลิกที่นี้ -->> Upload ภาพหัวข้อ: ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับน้ำมัน เริ่มหัวข้อโดย: LesCop ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2556 12:33:17 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับน้ำมัน (ทษฎี)
ตอนนี้เราทราบแล้วว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นประจำ เพราะจะส่งผลดีต่อรถยนต์ เพราะทำให้เครื่องยนต์สะอาดและน้ำมันใหม่ทำหน้าที่ได้อย่างเหมาะสม แต่หากคุณยังสงสัยว่า จริงๆ แล้ว น้ำมันเครื่องทำงานอย่างไรกันแน่ มาเริ่มกันตั้งแต่ต้น น้ำมันที่ใช้กันในรถมีส่วนประกอบหลักๆ อยู่สองส่วน นั่นคือ น้ำมันพื้นฐานและสารเติมแต่ง น้ำมันพื้นฐานจะเป็นตัวที่ทำให้น้ำมันเครื่องทำหน้าที่ได้ถูกต้อง นั่นคือ การหล่อลื่นส่วนที่เคลื่อนไหวในเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสึกหรออันเนื่องมาจากการเสียดสีกัน ส่วนสารเติมแต่งจะช่วยปกป้องเครื่องยนต์ โดยช่วยป้องกันไม่ให้น้ำมันเสื่อมคุณภาพจากการทำงานที่มีอุณหภูมิสูงมากๆ จากเครื่องยนต์ น้ำมันพื้นฐานได้มาจากการกลั่นน้ำมันดิบ (ที่ได้จากการสูบจากพื้นดิน) น้ำมันดิบจะผ่านกระบวนการกลั่นหลายขั้นตอนก่อนที่จะได้น้ำมันที่เหมาะกับการใช้เป็นน้ำมันเครื่อง ส่วนผสมที่ไม่ต้องการ เช่น ขี้ผึ้ง, กำมะถัน และส่วนประกอบของไนโตรเจนต้องถูกกำจัดออกไป ส่วนของไฮโดรคาร์บอนที่ไม่อิ่มตัวจะถูกสกัดทำให้โมเลกุลเสถียรมากขึ้น น้ำมันดิบจะถูกกลั่นด้วยระบบสูญญากาศ เพื่อให้ได้น้ำมันพื้นฐานที่มีระดับความหนืดต่างๆกัน ผลผลิตที่ได้ในแต่ละกระบวนการจะนำปผลิตเป็นน้ำมันพื้นฐานต่างๆ มีดังนี้
การใช้น้ำมันพื้นฐานเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอต่อการปกป้องเครื่องยนต์ น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ยังต้องมีคุณสมบัติอื่นๆ เพื่อช่วยปกป้องเครื่องยนต์ ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ ดังนั้นจึงมีการเติมสารเติมแต่งเพื่อให้ได้สูตรที่สมบูรณ์แบบ
ถึงตอนนี้ คุณทราบแล้วว่าน้ำมันเครื่องคืออะไร ทำมาจากที่ไหนและทำงานอย่างไร ส่วนที่จะกล่าวต่อไปนี้ เป็นส่วนที่มีคนสับสนมากที่สุดส่วนหนึ่ง นั่นคือ เกรดของน้ำมันเครื่องนั่นเอง น้ำมันเครื่องทำหน้าที่ที่สำคัญที่สุดคือ การหล่อลื่น ซึ่งความหนืดของน้ำมันเครื่อง (วัดจากความข้นใส หรือการต้านทานการไหล) จะต้องสามารถที่จะทำงานได้อย่างดี แม้ว่าเครื่องยนต์จะมีอุณหภูมิที่สูงมาก โดยที่น้ำมันจะต้องเป็นฟิล์มบางๆเมื่อเครื่องยนต์ร้อนและข้นขึ้นเมื่อเครื่องยนต์เย็น การเลือกเกรดของความหนืดที่เหมาะสมกับอุณหภูมิของรถยนต์ ซึ่งวัดจากสถานที่ที่อยู่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก น้ำมันที่เป็นโมโนเกรด หมายความว่า มีความหนืดที่เหมาะกับอุณหภูมิหนึ่งๆเท่านั้น ส่วนแบบมัลติเกรดนั้น จะใช้ได้กับทุกสภาพอากาศ จึงทำให้น้ำมันแบบมัลติเกรดได้รับความนิยมมากกว่าจากนักขับ ซึ่งต้องเผชิญกับอากาศที่ทั้งร้อนและเย็น โดยดูจากตัวเลขแสดงความหนืดสองตัว (อย่างเช่น 10W-30 แสดงว่า 10W คือ ความหนืดที่อุณหภูมิต่ำ สำหรับหน้าหนาว และ 30 สำหรับอุณหภมิสูง)ซึ่งเกิดจากการที่เราใส่สารเติมแต่ง ทำให้ความหนืดเปลี่ยนแปลงน้อยมากเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนไป ระดับชั้นคุณภาพของน้ำมัน, เกรดของความหนืด และค่าที่เหมาะสมกับพลังงานของน้ำมันสามารถดูได้จากสัญลักษณ์ของ API ซึ่งมีลักษณะเป็น "โดนัท" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ API (สถาบันการปิโตรเลี่ยมอเมริกัน) ตัวอักษรสองตัว แสดงถึงคุณภาพของน้ำมันเครื่อง และประเภทของเครื่องยนต์ที่เหมาะสม ตัวอักษรแรก "S" หมายความว่า เป็นน้ำมันเครื่องที่เหมาะกับเครื่องยนต์ที่ใช้ประกายไฟในการจุดระเบิด หรือเครื่องยนต์เบนซิน หากตัวอักษรตัวแรกเป็น "C" จะหมายถึงเครื่องยนต์ที่ใช้การบีบอัด ในการจุดระเบิด หรือเครื่องยนต์ดีเซล ตัวอักษรตัวที่สองในแต่ละหมวด แสดงระดับชั้นคุณภาพของน้ำมัน สำหรับเครื่องยนต์เบนซินนั้น ระดับความมีประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นตามตัวอักษร แต่สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะมีประเภทและความแตกต่างของตัวเครื่องยนต์ดีเซลเองหลากหลาย ดังนั้นควรทำตามคู่มือที่มาจากผู้ผลิตเพื่อความเหมาะสมในการเลือก ตรงกลางของ "โดนัท" จะบ่งบอกถึงระดับความหนืดโดย SAE (สมาคมวิศวกรเครื่องยนต์) ส่วนล่างบอกถึงคุณสมบัติของพลังงานตามหลักการทดสอบมาตรฐานของอุตสาหกรรม หากน้ำมันเครื่องนั้นเป็นเครื่องยนต์เบนซินที่มีเครื่องหมาย "S" ที่มีระดับชั้นคุณภาพสูงสุดและมาตรฐานจากพลังงานอยู่ในระดับมาตรฐาน ก็จะมีสัญลักษณ์ที่เรียกว่า "สตาร์เบิร์สท์" ซึ่งจะพบได้ในฉลากด้านหน้า ที่มา : castrol.com (http://www.castrol.com/castrol/genericarticle.do?categoryId=82937803&contentId=7006104) หัวข้อ: Re: ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับน้ำมัน เริ่มหัวข้อโดย: LesCop ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2556 13:09:03 น้ำมันเครื่องยี่ห้ออะไร ดีที่สุด และยี่ห้อไหน แย่ที่สุดครับ??
สงสัยมานานแล้วครับ - ระหว่างน้ำมันเครื่องแต่ละยี่ห้อในประเทศไทย โมบิล วาวโอลิน คาสตรอล ปตท. หรือยี่ห้ออื่นๆ คิดว่ายี่ห้อไหนในประเทศที่มีขาย ตั้งแต่เกรด 30-50 ดีที่สุดครับ?? - ในเชิงเดียวกัน น้ำมันเครื่องยี่ห้อไหน เกรดไหน คุ้มค่า ที่สุดครับ?? - กลับกัน น้ำมันเครื่องยี่ห้อไหน แย่ที่สุดครับ ปล. จากประสบการณ์ที่เคยใช้ๆกันมา ยี่ห้อไหนไม่ประทับใจที่สุด นั่นแหละครับ ส่วนตัวผมใช้น้ำมันเครื่องโตโยต้าสังเคราะห์แท้เกรด 40 ตลอด เพื่อนแนะนำคาสตรอล บางคนเห็นช่วงนี้ฮิตเอชเคเอสกัน บางคนก็ชอบโมบิลเกรด30 เยอะแยะไปหมด เลยอยากทราบครับ ว่ายี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนแย่?? ใช้ HKS 10 w 35 ครับ 5000กิโลเมตร ก็รู้สึกว่า เสียงเครื่องเริ่มดัง ไม่ค่อยลื่นแล้ว แต่ mobil1 0w 40, 5w35 ใช้จน 9000 กิโล ยังรู้สึกลื่นกว่า hks เยอะครับ แต่ราคามันก็ต่างกันเยอะครับ ตอนนี้ใช้ Caltrol EDGE ในเครื่อง SR20DE+BrianCrower Cam. ใช้งานในลักษณะที่เน้นรอบการทำงาน ไปจนถึง 8,000 รอบต่อนาที เท่าที่สังเกตแรงดัน ขับแบบหนักบ้างเบาบ้างนี่ไม่มีปัญหาครับ แต่พอหนักมากๆเข้า (ขับแบบรถแข่ง) Oil Pressure มีถอยลงหน่อยเวลา เดินเบา แต่ก็แค่ 2-3PSI เท่านั้น โดยรวมแล้วเป็นน้ำมันที่ถ้านึกไม่ออกจริงๆว่าจะเอาอะไรที่เป็นหนืด 40 ไอ้ตัวนี้ก็โอเคครับ ไม่ใช่น้ำมันที่ชอบพังเครื่อง อีกตัวนึงผมใช้ Sunoco Brill หนืด 50 ใช้กับ Legacy Turbo ตัวนี้ราคาประมาณ 2,400 บาท ซึ่งสูงกว่า Castrol EDGE (วัดด้วยราคา community/club ไม่ใช่ราคาในห้างใหญ่) น้ำมันตัวนี้ทนงานหนักได้ดีทีเดียว และมีส่วนช่วยเวลาเครื่องอยู่ในสภาพที่ไม่เป็นใจด้วย ท่อน้ำฮีทเตอร์ผมรั่ว น้ำไหลออกนอกเครื่องหมดตอนผมซัดเกียร์ 1-2-3 แถมอยู่บนโทลล์เวย์ จะจอดทันทีเลยก็อันตราย ต้องวิ่งโดยเข็มความร้อนฮีทมาลงที่หน้าคุกคลองเปรม ทุกคนฟันว่ามีไสฝาแน่ แต่ไม่เป็นอะไรเลย ตัวน้ำมันนี้มีเพืื่อนที่ใช้เล่าว่า Oil temp. จะขึ้นช้า แต่เวลาลงจะลงเร็ว เป็นคุณสมบัติสำหรับน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่อง "จัดหนัก"ที่ดี โดยทั่วไปแล้วคงไม่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่องระดับแพงๆ มันขึ้นอยู่กับตัวเครื่องว่า เอาไปใช้จุดประสงค์อะไร เครื่องถึกๆอย่าง 1JZ-GTE ต่อให้ม้า 300 ตัวยังทานน้ำมันเครื่อง สเป็คธรรมดา (ที่เปลี่ยนตรงกำหนด)ได้โดยไม่พัง ส่วนน้ำมันเครื่องที่ชอบทำตัวเป็นตัวพังเครื่อง..ไม่อยากพูดชื่อ พูดแล้วเศร้าจิต จับยัด B16A ซัดคลองห้าสูบติดพังคาคลองห้า จับยัด SR20DET ซัดเกียร์สามรอบเดียว อุณหภูมิน้ำมันเครื่องไปแตะ 110 แล้วขับดี ขับออมมือ แช่นิ่งยังไงก็ไม่ลง ถอนกำลังกลับบ้าน ขันเอาน้ำมันตัวอื่นใส่ ซัดเกียร์ 3 เหมือนเดิม อุณหภูมิก็ยัง 100-102.5 อยู่ พอหยุดซัด ก็ลดลงมาเหลือต่ำกว่า 100 ..ไม่บอกแบรนด์นะเดี๋ยวจะหาว่าโฆษณา แต่เป็นแบรนด์ ราคาไม่ได้แพงมากเลย อยากให้คนไทยด้วยกันทำของที่คุณภาพฝรั่งเหวอ ญี่ปุ่นอึ้งออกมา ไม่มีอะไรสะใจเท่าใช้ของของบ้านเราแล้วทำทุกอย่างได้เหมือนของนำเข้าที่ราคาแพงกว่า แต่ในโลกของน้ำมันเครื่อง วันนั้นยังมาไม่ถึง (มาได้แล้วเหอะ) เกรดที่คุ้มค่าที่สุดน่าจะเป็น Semi นะครับ เช่น 10W-40 ตัวที่ผมใช้อยู่ของ Mobil1 ขายอยู่ 680 บาท แต่ถ้าเป็น Fully Syn ราคากระโดดไปเลยเกินเท่าตัว นอกจากว่าจะดูยี่ห้ออื่นแทนเช่น Valvoline ที่เห็นขายกันประมาณ 1,300 บาท แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ความประหยัด อัตราเร่ง รอบเครื่อง ดีสุด mobil 1 0w-40 ลองมา 4 กระป๋อง shell helix ultra อันนี้รอบเครื่องไม่นิ่ง สงสัยลื่นจัด ลองมา 1 กระป่อง เกินหมื่นยังลื่น คุณภาพดีมาก valvoline syn 5w-40 รอบเครื่องนิ่ง คล้ายๆ โมบิลวัน แต่ โมบิลลื่นกว่าหน่อย ลองมา 2 กระป๋อง ปตท ซุปเปอร์ซิน ลองมา สิบกว่า กระป๋อง ทั้งวีออส และ ซีวิคเอฟดี พอเกิน 7 พันโลเริ่มอืดอย่างเห็นได้ชัด ว่าจะลอง eneos ดูสเปคแล้วเท่า โมบิลวันตัวแรก แต่ราคาถูกกว่าหน่อย สรุป ปตท.ห่วยสุด อย่าเห็นแก่ของแถมครับ ผมใช้ Castrol Edge Sport 0W-40 ใช้ดีมากครับ ลื่นดี ผมใช้ถึง 15,000 km. ยังโอเคอยู่เลยครับ ราคาที่ซื้อมาแถวบ้าน 2,000 บาท 4+1 ลิตร แถมกระเป๋าเป้1ใบ ที่มา : headlightmag.com (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?topic=11148.0) หัวข้อ: Re: ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับน้ำมัน เริ่มหัวข้อโดย: LesCop ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2556 14:20:10 Castrot bp แนะนำเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่ ใหญ่ยนต์จูนนิ่ง
http://www.youtube.com/watch?v=aImu90HWqTE
คลิกที่นี่ -->> จัดพระของขวัญเข้ารุ่นและพิมพ์ |