อึ้ง ทึ่ง เสียว!! กับ“คนสู้งู” บ้านโคกสง่า คนกล้าท้าตาย ท้าทายอสรพิษ
หมองูกล้าตาย ท้าทายอสรพิษร้าย
ฝันว่าโดนงูรัดเขาว่าจะเจอเนื้อคู่ ฝันว่าโดนงูกัดเขาว่าจะโดนปองร้าย แต่ถ้าใครอยากเจองูแบบไม่ต้องฝัน ขอแนะนำให้มาที่ “บ้านโคกสง่า” ที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ที่นอกจากจะได้เจองูตัวเป็นๆ แล้ว ยังจะได้ชมโชว์ระหว่างคนกับงูอันน่าตื่นเต้นหวาดเสียวไม่มีที่ไหนเหมือน โดยเฉพาะ “งูจงอาง” ซึ่งเป็นงูพิษที่มีขนาดลำตัวยาวที่สุดในโลก และยังมีนิสัยดุร้าย แม้พิษไม่ร้ายแรงเท่างูเห่า แต่เมื่อกัดแล้วจะล็อกขากรรไกรติดกับเหยื่อไว้แน่น และจะปล่อยน้ำพิษในปริมาณมากกว่างูเห่าถึง 10 เท่า เหยื่อที่ถูกกัดจึงมักตายอย่างรวดเร็ว
ผู้ชมต่างตื่นเต้นกับการแสดงอันน่าหวาดเสียว
แม้จะเป็นอสรพิษร้ายที่ไม่ควรเข้าใกล้ แต่สำหรับชาวบ้านโคกสง่า นอกจากจะไม่กลัวงูจงอางแล้ว ยังกล้าท้าความตายด้วยการนำงูจงอางมาแสดงโชว์อย่างน่าหวาดเสียว ทั้งอมหัวงู จับงูให้เลื้อยเข้าไปในกางเกง ชกมวยกับงูจงอาง ฯลฯ ทำเอาผู้ชมหายใจไม่ทั่วท้อง
ความสามารถพิเศษที่ไม่มีใครกล้าเลียนแบบทำให้บ้านโคกสง่าได้ชื่อว่าเป็น “หมู่บ้านงูจงอาง” โดยหมู่บ้านแห่งนี้ได้เลี้ยงและแสดงโชว์งูมากว่า 60 ปี แล้ว จุดเริ่มต้นของการเป็นหมู่บ้านงูเริ่มต้นมาจากที่พ่อใหญ่เคน ยงลา ซึ่งประกอบอาชีพเป็นหมอยา เดินทางไปขายยาสมุนไพรตามหมู่บ้านต่างๆ และได้มีความคิดที่จะจับงูจงอางมาแสดงเพื่อเป็นสิ่งดึงดูดให้คนสนใจ ซึ่งก็นับว่าได้ผลอย่างมาก ต่อมาพ่อใหญ่เคนได้ถ่ายทอดวิชาให้ลูกหลานในหมู่บ้านซึ่งก็ได้เดินทางเร่แสดงงูและขายยาสมุนไพรเป็นอาชีพเสริมนอกจากการทำเกษตรกรรม จนชื่อเสียงของหมู่บ้านงูจงอางบ้านโคกสง่าโด่งดังไปทั่ว
สิ่งสำคัญที่หมองูต้องมีคือไหวพริบ สายตาและการเคลื่อนไหวที่ว่องไว
มาจนถึงวันนี้ บ้านโคกสง่าก็ยังได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านงูจงอาง โดย ทา บุตตา หรือลุงทา หมองูและที่ปรึกษาชมรมงูจงอางหมู่บ้านโคกสง่า ได้เล่าถึงประสบการณ์ในการเป็นหมองูมากว่า 38 ปี ให้ฟังว่า ได้ออกแสดงกับงูมาตั้งแต่อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่หมู่บ้านงูโคกสง่าเริ่มมีชื่อเสียง และในหมู่บ้านโคกสง่าก็เลี้ยงงูกันแทบทุกครัวเรือน รวมแล้วกว่า 400 ตัว ด้วยกัน
ลุงทาเล่าว่า ในการแสดงแต่ละครั้งจะมีการแสดงโชว์ฝูงงูจงอาง การแสดงละครงูจงอางตามจังหวะเพลง การชกมวยระหว่างคนกับงูอันน่าตื่นเต้น และแสดงความสามารถพิเศษของหมองูซึ่งเป็นที่น่าหวาดเสียวของผู้ชมยิ่งนักก็คือการจูบกับงู โดยหมองูจะนั่งประจันหน้ากับงูจงอางที่กำลังชูคอแผ่แม่เบี้ย มองจ้องตาเหมือนจะสะกดจิตกันและกันแล้วค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าหางูอย่างใกล้ชิด ก่อนจะอ้าปากงับหัวงูอย่างไม่กลัวโดนฉก ทำเอาคนดูลุ้นจนตาไม่กะพริบ หรือบางคนก็อาจปิดตาไม่กล้าดูไปเลย นอกจากนั้นก็ยังมีโชว์ระทึกขวัญโดยการจับงูให้เลื้อยเข้าไปในกางเกง โชว์ผู้หญิงกับงูซึ่งให้ผู้หญิงอมงูโชว์ ซึ่งงูที่ใช้แสดงหลักๆ คืองูจงอาง และจะมีงูชนิดอื่นๆ เป็นตัวเสริมบ้าง เช่น งูเหลือม งูหลาม งูทางมะพร้าว เป็นต้น
โชว์ผู้หญิงอมงูที่ได้รับความนิยม
ในการแสดงแต่ละครั้งลุงทาไม่ได้ใช้คาถาเสกงูให้เชื่อง แต่ใช้เพียงความกล้า ไหวพริบ สายตาและการเคลื่อนไหวที่ว่องไวกว่างูเท่านั้น อีกทั้งยังมีสมุนไพรคู่กายอย่าง “ว่านพญางู” เป็นตัวแก้พิษงู โดยจะใช้เคี้ยวเมื่อถูกงูกัด และใช้ทาบริเวณปากแผลร่วมกับน้ำมะนาว แต่หากโดนกัดเข้าจังๆ ส่วนใหญ่จะใช้เซรุ่มแก้พิษมากกว่า เพราะว่านจะไม่สามารถแก้พิษได้ทันเวลา
สำหรับลุงทาแล้ว งูจงอางถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่ช่วยสร้างรายได้ให้แก่คนในหมู่บ้าน จึงต้องดูแลให้อยู่ดีกินดี ต้องหาอาหารจำพวกกบ เขียด หรือสัตว์เล็กๆ ให้งูกิน ต้องอาบน้ำทำความสะอาดให้เป็นประจำ และต้องคอยตรวจสุขภาพและรักษาเมื่อเป็นโรค โดยเฉพาะโรคเห็บงูที่มักเป็นกันบ่อย และในช่วงหน้าหนาว งูจงอางก็เป็นหวัดได้เช่นกัน ดังนั้นเมื่ออากาศหนาวจัดจึงต้องนำงูไปผิงไฟหรือผึ่งแดดเพื่อวอร์มร่างกายก่อนออกแสดง มิฉะนั้นงูจะซึม ไม่ยอมกินอาหาร น้ำมูกไหล เอาแต่นอนขดในกรง
นักท่องเที่ยวต่างชาติขอสัมผัสงูอย่างใกล้ชิด
แม้จะกล้าท้าความตาย แต่ก็มีหมองูไม่น้อยที่ตายเพราะงู ที่บ้านโคกสง่าเองก็มีหมองูหลายคนที่เคยพลาดถูกงูกัดมากบ้างน้อยบ้าง บ้างใช้ว่านพญางูช่วยเหลือได้ทัน บางคนถูกกัดจนพิการนิ้วมือขาด และมีบางคนที่พลาดถูกงูจงอางกัดจนเสียชีวิต โดยเมื่อเร็วๆ นี้หมองูชื่อดังแห่งบ้านโคกสง่าฉายา “เก้าแสน เก้าพยัคฆ์” หรือ เฮียง แก้วพิลา หมองูผู้ช่ำชองซึ่งถูกงูจงอางกัดมาแล้วกว่า 60 ครั้ง แต่ก็รอดมาได้ ก็ต้องมาเสียชีวิตหลังจากถูกงูที่เลี้ยงซึ่งหลุดออกจากกรงกัดที่ข้อมือขวา
ลุงทาให้ความเห็นกับสำนวน “หมองูตายเพราะงู” ว่า “ทุกครั้งที่แสดง ผมมีเพียงความกล้าและว่านพญางูเท่านั้น ไม่ได้มีวิชาอะไรเป็นพิเศษ ทำให้เราต้องระวังตัวตลอด ประมาทไม่ได้ ที่พลาดไปก็เป็นเพราะความประมาท คิดว่าฝึกจนเชี่ยวชาญจนลืมไปว่าหมองูก็ตายเพราะงูได้”
เชิญมาชมการแสดงอันน่าตื่นเต้นได้ที่หมู่บ้านงูจงอางบ้านโคกสง่า
แม้จะเป็นอาชีพที่เสี่ยงไม่น้อย แต่เด็กๆ ในหมู่บ้านโคกสง่าก็ยังสนใจจะดำเนินรอยตามเส้นทางหมองูของพ่อและปู่ โดยลุงทากล่าวว่า ยังมีการสืบทอดและฝึกฝนวิชาการเลี้ยงและโชว์งูให้แก่ลูกหลานในหมู่บ้าน ซึ่งสามารถฝึกให้ทำความคุ้นเคยกับงูได้ตั้งแต่ชั้นอนุบาล และค่อยๆ เพิ่มประสบการณ์ให้มากขึ้นเรื่อยๆ
ปัจจุบันชาวบ้านโคกสง่าก็ยังมีรายได้พิเศษจากการแสดงโชว์งูและการขายยาสมุนไพร นอกเหนือจากการทำเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลัก โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจมาชมอยู่เรื่อยๆ และนักท่องเที่ยวต่างชาติจะตื่นเต้นมาก จะขอสัมผัสขอถ่ายรูปกับงูกันเป็นที่สนุกสนาน
เพื่อเป็นการต้อนรับปีงู ใครที่อยากสัมผัสงูอย่างใกล้ชิดก็ขอเชิญมาที่บ้านโคกสง่า มาชมความสามารถของหมองู และพบกับเหล่าฝูงงูจงอางนับร้อยที่คอยต้อนรับอยู่อย่างอบอุ่น
หมู่บ้านงูจงอางบ้านโคกสง่า เปิดแสดงทุกวันไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ 09.00-17.00 น. หากมีนักท่องเที่ยวมาชมตลอดวัน จะเปิดแสดงทุก 10-20 นาที ไม่คิดค่าเข้าชม สามารถบริจาคตามศรัทธา หรือซื้อสมุนไพรที่ขายในหมู่บ้าน หากมาชมเป็นคณะควรโทรแจ้งล่วงหน้าก่อนเพื่อเตรียมอำนวยความสะดวก ติดต่อสอบถามได้ที่ ทา บุตตา โทร. 08 1974 9499 หรือ ททท.สำนักงานขอนแก่น โทร. 0 4322 7714 -5
หมายเหตุ : ภาพจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดขอนแก่น
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467
อีเมล์
travel_astvmgr@hotmail.com ชมคลิปการแสดงหมู่บ้านงูบ้านโคกสง่า
